เราคือทีมรับซื้อการ์ดจอมือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทุกประเภท โดยมีบริการรับถึงบ้าน ไม่ว่าจะจะเป็นการ์ดจอขุด การ์ดจอเล่นเกม การ์ดจอประเภทไหน เรา รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 มือสอง , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 เก่า , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti มือสอง , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti เก่า ทั้งหมด
ไม่ว่าคุณจะมีใบเดียว เรา รับซื้อการ์ดจอ ถึงบ้านคุณ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการรับซื้อการ์ดจอ ของคุณ บริการไปรับฟรี ตีราคาเร็ว
…หรือหากคุณเป็นบริษัท :
เรามีทีมทำเสนอราคา ไม่ว่าจะเป็นสิบตัว ร้อยตัว เราพร้อมทำเอกสาร รับซื้อการ์ดจอมือสอง ให้คุณ พร้อมทำคู่เทียบรับซื้อการ์ดจอมือสอง ให้คุณได้สะดวกสบาย ไม่ต้องยุ่งยากในการหาคู่เทียบ
วิธีการขายการ์ดจอมือสองให้เรา ง่าย ๆ เพียงแอดไลน์ @buyit ส่งรูป การ์ดจอที่ต้องการขาย มาให้เราดูแบบละเอียด ทางเราจะตีราคาภายในไม่กี่นาที รับซื้อการ์ดจอมือสอง แบบมืออาชีถ
รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 มือสอง , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050 เก่า , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti มือสอง , รับซื้อการ์ดจอ Rtx 3050Ti เก่า
ปัจจุบันนี้ Gaming Notebook ราคาประหยัดก็มีให้เลือกเยอะมากๆในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มราคาที่ไม่ถึง 4 หมื่นบาท เราก็เห็นหลายๆค่ายเปิดตัวรุ่นย่อยมาหลายตัว ทำให้คุณอาจจะสงสัยว่าแท้จริงแล้วรุ่นไหนจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด .. ในกลุ่มราคาประมาณนี้ ถ้ามองตัวเลือกที่เป็นการ์ดจอ NVIDIA นั้น ก็จะมีทางเลือกอยู่ประมาณสามรุ่น นั่นก็คือ GeForce RTX3050, RTX3050Ti และ RTX3060 ส่วนที่เหลือก็จะขึ้นอยู่กับ CPU, Memory, Storage, ดีไซน์ของตัวเครื่อง และแบรนด์
ผลทดสอบจากช่อง Jarrod’sTech บน YouTube ก็ได้ระบุว่า GeForce RTX3050Ti นั้นน่าจะเป็น การ์ดจอ จากทาง NVIDIA ในกลุ่ม Gaming Notebook ที่แย่ที่สุด รวมไปถึง GeForce RTX3050 รุ่นมาตรฐานก็แย่ไม่ต่างกัน .. ไม่ใช่ว่ามันเป็นการ์ดจอที่ไม่ดี หรือว่ามีปัญหาอะไรนะ แต่ด้วยสเปกกับราคาของมันนั้น ดูไม่คุ้มค่าเอาซะเลย เพราะประสิทธิภาพของมัน (RTX3050Ti) ด้อยกว่า RTX3060 ถึง 35% แต่ราคากลับถูกกว่า RTX3060 โดยเฉลี่ยแค่ 10% เท่านั้น
ในการทดสอบของ Jarrod เขาก็ใช้ Gaming Notebook จากทาง XMG ที่ใช้ CPU Intel Core i7-11800H และ Memory ขนาด 16GB ความเร็ว 3200MHz (JEDEC Speed) ซึ่ง Notebook ทั้งสองตัวที่ใช้ทดสอบนั้นเป็นสเปกเดียวกันทั้งหมด แตกต่างแค่การ์ดจอที่ตัวนึงเป็น RTX3050Ti และอีกตัวเป็น RTX3060 .. ซึ่งถ้าส่องสเปกของตัวการ์ดให้ละเอียดแล้ว ค่า Power Limit ของตัวการ์ดจอนั้นก็จะแตกต่างกัน คือ RTX3050Ti จะอยู่ที่ 80W ส่วน RTX3060 จะอยู่ที่ 115W ทำให้ขีดจำกัดของการ์ดจอ RTX3060 ต้องไกลกว่าอย่างแน่นอน
ในการทดสอบบนความละเอียด FullHD (1080p) ก็จะเห็นว่า RTX3060 นั้นทำผลออกมาได้ดีกว่า RTX3050 ถึง 50% โดยเฉลี่ย .. แต่หนักที่สุดก็คงจะเป็น Battlefield V , Control และ Cyberpunk 2077 ที่ตัว RTX3060 นั้นทำคะแนนดีกว่าตั้งแต่ 74% จนถึง 115% เลยทีเดียว .. นี่ยังไม่นับเกม Assassins Creed Valhalla ที่ต้องการใช้ VRAM ที่สูงนะ เพราะเกมนั้น RTX3060 ทำคะแนนได้ดีกว่าถึง 600% (อันนี้ไม่ควรเอา RTX3050Ti มาเล่นตั้งแต่แรกแล้ว)
แต่ถ้าเราปรับค่า Setting ลงมาให้ต่ำลง RTX3050Ti นั้นจะมีความแตกต่างจาก RTX3060 น้อยลงด้วยเช่นกัน เพราะด้วยการตั้งค่าแบบ Lowest หรือต่ำสุดนั้น ประสิทธิภาพของการ์ดจอทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันแค่ 25% โดยเฉลี่ย .. ส่วนเกมอย่าง Control และ Cyberpunk 2077 นั้นก็ยังห่างกันอยู่ประมาณ 57-76% ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่น้อยลงกว่าตอนค่า Setting แบบปรับสุด แต่โดยรวมก็ถือว่าแย่อยู่ดี
สาเหตุที่ RTX3050Ti นั้นเป็นการ์ดจอที่ไม่น่าประทับใจ ก็เป็นเพราะว่ามันมี Video Memory แบบ GDDR6 แค่ 4GB ซึ่งไม่เพียงพอกับเกมในสมัยใหม่แล้ว เวลาปรับความละเอียดสูงๆ Frame Buffer ก็จะไม่เพียงพอนั่นเอง .. และยิ่งถ้าคุณเปิดฟีเจอร์หลักของการ์ดจอ RTX อย่าง Realtime Ray Tracing แล้ว ผลก็จะแย่ไปอีกครับ เพราะว่าตัว RT Core ก็ต้องการ Memory มาใช้งานเช่นกัน นั่นทำให้ตัว Framerate ร่วงหนักกว่าเดิม .. ยกตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 ที่เราได้เห็น Frame Rate ร่วงลงไปต่ำกว่า 30fps หรือเข้าขั้นกระตุกจนเล่นไม่ได้ (และนี่เปิดตัวช่วยอย่าง DLSS แล้วนะ)
ที่จริงแล้วการที่การ์ดจอไม่แรง มันก็ไม่ผิดหรอกครับ โดยเฉพาะกับกลุ่ม Entry Level อย่างตระกูล 50 Series แล้ว .. แต่ประเด็นมันก็คือเรื่องราคา ที่พวก Notebook RTX3050Ti นั้นมันไม่ได้ราคาประหยัดอย่างที่ควรจะเป็นไง ซึ่งตัวที่เอามาทดสอบสองตัวนั้น ราคาแตกต่างกันแค่ 10% แต่ประสิทธิภาพนั้นต่างกันมากกว่านั้นเยอะ ทำให้เรื่อง “ความคุ้มค่า” ของรุ่น RTX3050Ti นั้น จัดได้ว่าแย่มากๆ .. เพราะถ้าใครเอามาทดสอบจริงๆ คงจะตัดสินใจได้เลยว่าเพิ่มเงินอีก 10% ไปเอาตัวที่แรงกว่ากันมากจะเหมาะกว่า
ที่ว่าไปทั้งหมดนี้ก็เป็นบทวิเคราะห์จากการทดสอบของ YouTube Channel ต่างประเทศเท่าน้ันครับ .. แต่ถ้าให้ถามผมจากประสบการณ์ตรงที่รีวิว Notebook มาแล้วหลายรุ่น ทั้งรุ่นที่เป็น RTX3050Ti และ RTX3060 ก็อยากจะบอกเหมือนกันครับว่า “จริงทุกประการ” เพราะการ์ดจอ RTX3050Ti ใน Notebook นั้นไม่สามารถทำผลคะแนนออกมาได้น่าประทับใจเลย เมื่อเทียบกับราคาแล้ว .. ผมมักจะแนะนำทุกครั้งไปว่าถ้าคุณเพิ่มเงินได้อีกนิดหน่อย ควรไปเอารุ่นที่เป็น RTX3060 จะดีกว่า เพราะประสิทธิภาพของ RTX3060 นั้นถูกอัปเกรดขึ้นไปเยอะ จนสามารถเล่นเกมได้จริง ไม่เหมือนกับ RTX3050Ti ที่ไม่สมควรจะใช้ชื่อ RTX ด้วยซ้ำ เพราะต่อให้เปิด Realtime Ray Tracing ได้ แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ควรจะเอามาเล่นเกมจริงๆอยู่ดี
แต่ก็ใช่ว่า RTX3050Ti จะไม่เหมาะกับใครเลยนะ .. ด้วยความแรงประมาณนี้ ผมมองว่ามันยังเล่นเกมที่กินสเปกไม่สูงอย่างเช่นพวกเกมสำหรับ eSport ทั้งหลาย หรือว่าเกมเก่าๆไม่กินสเปกมากได้ลื่นไหลสบายๆอยู่ .. แต่ถ้ามองมาที่ราคาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ไม่ควรจะเพิ่มงบนิดหน่อยไปเอาตัว RTX3060 ยกเว้นว่าคุณจะงบสุดแล้วจริงๆ หรือว่าหาซื้อไม่ได้แต่จำเป็นต้องใช้ ณ ตอนนั้น ..ว่ากันตามความจริง หวังว่าสาวกจะไม่โกรธกันนะครับ